Tuesday, January 29, 2013

The Designer : 24 ชั่วโมงของ "Vera Wang"



มาดูชีวิต 24 ชั่วโมงของหญิงเอเชียสุดแกร่ง ที่ทำให้ผู้หญิงธรรมดาๆคนนึงกลายเป็นเจ้าหญิงในนิทานได้ เจ้าของแบรนด์ชุดแต่งงานที่สวยจับใจติดระดับโลกคนนี้ "Vera Wang"


8:00 AM ฉันเป็นคนตื่นสาย หากเทียบกับมาตรฐานครอบครัวฉันนะ การนอนคือสิ่งล้ำค่าสำหรับฉัน เพราะตอนเด็กฉันต้องตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ทุกวันเพื่อไปเล่นไอซ์สเก็ต ดังนั้นฉันจึงไม่ใช่คนตื่นเช้าเลย ฉันเคยบ่นเรื่องนี้กับชารอน สโตน เพื่อนรักครั้งหนึ่ง แล้วเธอก็บอกว่า "ฉันไม่คิดว่าปิกัสโซ่จะตื่นตั้งแต่ตี 5 ไปทำฟาร์มหรอกนะ" จากนั้นฉันก็เลยใช้ข้ออ้างนี้ตลอด ฉันต้องนอน 7 - 8 ชั้วโมง ถ้าโชคดีหน่อยและเป็นสุดสัปดาห์ ฉันจะนอน 10 ชั่วโมงเลย ฉันสวมเสื้อยืดของ Rick Owens เข้านอน เสื้อเหล่านี้เป็นเหมือนแหล่งให้ความอบอุ่นกับฉัน เพราะฉันนอนในห้องที่อุณหภูมิเกือบถึงจุดเยือกแข็งเหมือนห้องแช่เนื้อเลยหละ

8:15 AM สิ่งแรกที่ทำคือเชค iPhone และ  Blackberry ฉันเพิ่งมาใช้ 2 ปีก่อนแต่ตอนนี้ติดสุดๆ ฉันมีแม่บ้านหนึ่งคนซึ่งเป็นประหนึ่งแม่ เธอจะนำอาหารเช้ามาให้ฉันถึงเตียง อาจจะเป็นโยเกิร์ตและผลไม้สด หรือไข่กับไส้กรอกไก่ ถ้าเป็นวันอาทิตย์ฉันจะทานแซลมอนรมควันกับขนมปังสีน้ำตาลและมะนาวเยอะๆ กาแฟของฉันคือ Jamaica Me Crazy ของ Wolfgang Puck ฉันเป็นคนที่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นหรอก จากนั้นฉันจะยกเวต แต่ไม่หนักมากแค่ 2 - 3ปอนด์ ประมาณ​ 5 นาที ฉันเริ่มลองทำสมาธิด้วยซึ่งเป็นเรื่องยากที่สุดที่ฉันเคยเรียนรู้มา

8:45 AM ฉันแช่น้ำในอ่าง บางครั้งฉันเทเบบี้ออยล์ของ Johnson ลงไปด้วย สำหรับใบหน้าฉันใช้มอยส์เจอไรเซอร์ของ Clinique แค่นั้นแหละ ส่วนใหญ่ฉันจะปล่อยผมไปด้านหลังแล้วใช้เฮดแบนด์ไม่ก็ยางรัดผม ทั้งหมดคือกิจวัตรในตอนเช้าของฉัน 




9:15 AM การแต่งตัวคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉัน ตู้เสื้อผ้าของฉันจัดเรียงอย่างดีตั้งแต่ เสื้อ กางเกง และเสื้อคลุม แต่ฉันไม่ค่อยมีชุดกระโปรงเท่าไหร่ ชุดราตรีจะอยู่อีกห้องหนึ่งเพราะฉันไม่ค่อยแต่งตัวทางการบ่อยนักแม้ว่าฉันจะออกแบบชุดราตรีก็เถอะ และก็เหมือนดีไซเนอร์คนอื่นๆ ฉันจะมียูนิฟอร์มประจำตัวเหมือนกันซึ่งเป็นเลกกิ้ง ซึ่งถ้าไม่ใช้เลกกิ้งก็ต้องเป็นกางเกงที่คล้ายกัน อาจจะเป็นของ Balenciaga หรือ Givenchy หรือจาก Danskin หรือไลน์ Kohl's ของฉันเอง จากนั้นฉันจะสวมเสื้อยืดและฉันคลุ้มคลั่งเสื้อตัวนอกมาก ฉันพยายามสุดๆเพื่อให้ลุคดูสบายๆ ต้องใช้ความตั้งใจอย่างมากเพื่อให้ดูเหมือนว่าคุณไม่ได้พยายามอย่างหนัก อย่างที่ Ralph Lauren หัวหน้าเก่าฉันบอก และฉันไม่เคยถือกระเป๋า พกแค่ Blackberry

9:45 AM จากนั้นฉันออกเดินทางไปทำงานด้วยรถตู้ ฉันใช้มา 5 คันแล้ว ฉันจะใช้คันละ 2 - 3 ปี ฉันใช้รถตู้เพราะตอนที่ลูกสาวฉันยังเล็ก ฉันสามารถโยนของทุกอย่างของลูกๆเข้าไปได้ ทุกคนรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนก็เพราะรถนี่แหละ มันเป็นเหมือนป้ายแผ่นใหญ่ที่บอกว่า "นี่ไง เธออยู่ที่นี่" ฉันมีคนขับรถ 2 คน คนแรกสำหรับ 8 ชั่วโมงแรก และอีกคนสำหรับอีก 8 ชั่วโมง รถตู้เป็นเหมือนออฟฟิศเคลื่อนที่ของฉัน ในนั้นมีทุกอย่างตั้งแต่ยาสามัญประจำบ้านชุดเล็ก ตู้เย็น น้ำ ลูกอมสวีดิชฟิช ผ้าห่ม หมอน สมุดสเก็ตสำหรับร่างแบบ ฉันมักจะพูดขำๆเสมอว่า ถ้าในรถมีห้องน้ำด้วยฉันสามารถอาศัยในนี้ได้เลยนะ ทุกคนขำและบอกว่าน่าเกลียดจัง แต่ฉันไม่สน ฉันเรียกมันว่าเครื่องบินเจ๊ต เพราะฉันไม่มีเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัว ครั้งหนึ่งหลังจากดินเนอร์ของ ฮิลลารี คลินตัน มีรถตู้สองคันจอดอยู่ด้านนอก ฉันขึ้นไปบนรถตู้คันหนึ่งแล้วบนรถมีผู้ชายหล่อที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาสามคนชักปืนขึ้นมา ฉันเลยพูดว่า "อุ๊ย ผิดคัน" เพราะรถตู้ก็เป็นวิธีเดินทางของฮิลลารีเช่นกัน

10:30 AM ฉันไปถึงที่ทำงานและจัดการเรื่องที่ด่วนที่สุดก่อน เหมือนกับคุณมีลูก 5 คน คุณก็ต้องวิ่งไปดูลูกคนที่ร้องไห้ดังที่สุดก่อน ที่นี่เราเหมือนครอบครัว

12:30 PM ฉันไม่ออกไปทานมื้อเที่ยง นอกจากว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจหรือวันเกิดเพื่อนรัก แต่ฉันก็ไม่ได้อดข้าวนะ ฉันต้องการอาหารมาเลี้ยงสมอง มื้อเที่ยงของฉันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ฉันชอบทานซาซิมิกับข้าวกล้องและผัก บร็อกโคลี่ต้มกับไก่สไตล์จีนและข้าวสวย หรือไม่ก็สลัดอาร์ติโช้กกับปลาจากร้าน Ambroeus อย่างช่วงนี้ฉันทานพิซซ่า 1 ชิ้นจากร้าน Ray ทุกวัน และน้ำหนักฉันไม่ขึ้นเลยซักปอนด์ พิซซ่าไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกถ้าคุณซับน้ำมันส่วนเกินออกไปบ้างเพราะบางทีมันก็มากเกินไป ฉันดื่มแค่น้ำเปล่า ฉันเลิกดื่มไดเอ็ทโค้กตั้งแต่เมื่อ 6 ปีก่อน เป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่ฉันต้องตัดใจ

2:30 PM ช่วงเวลานี้ฉันไม่เคยอยู่ออฟฟิศเลย แปลกดีนะ แต่ฉันเป็นพวกคลั่งกีฬามาก ดังนั้นถ้ามีการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลม ฉันจะติดตามการแข่งขันจากทีวีตลอดเกมเลย สิ่งที่ฉันต้องทำคือการจัดการกับไลน์ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เราทำอยู่ตั้งแต่ตรวจสอบแพทเทิร์นของจีนไปจนถึงเครื่องหนังชิ้นเล็กๆสำหรับ Kohl's ฉันไม่ค่อยรับโทรศัพท์ระหว่างวัน เพราะอยากทำตัวยืดหยุ่นและทำตัวให้ว่าง ฉันเลยมักไปโน่นมานี่ สมองฉันคิดเรื่องนั่นนี่ตลอดเวลา


4:00 PM ถ้าฉันไม่ยุ่งจนประสาทเสีย ฉันจะแอบหนีไปช็อปปิ้ง ไม่ก็ไปแกลเลอรี่ใหม่ๆสัก 2-3 ชั่วโมง ฉันจะตามซื้อเสื้อผ้า ฉันเป็นลูกค้าที่ดีของทุกคนเลย ฉันจะไปนอกเมือง ในเมือง ทุกที่ที่มีบาร์นียส์ เบิร์กดอร์ฟ กู๊ดแมน เจฟฟรีย์ ปราด้า บาเลนเซียก้า กอมม์ เดส์ กาซงส์ ฉันช็อปปิ้งในร้านผู้ชายด้วยเพราะฉันชอบเอาเสื้อผ้าผู้ชายมาปรับเล่น อาจจะดูแปลกๆหน่อยแต่ฉันทำแบบนั้นจริงๆ ยกตัวอย่าง ฉันเป็นคนบ้าหมวกมาก แต่ผมฉันหนาและหัวฉันก็ใหญ่ฉันเลยต้องใส่หมวกผู้ชาย ฉันหาซื้อทุกอย่างตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ ไฟติดห้อง และหนังสือเกี่ยวกับแฟชั่นและศิลปะมาไว้เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน ฉันสะสมหนังสือมาหลายปี ตอนนี้ฉันซื้อเล่มเดิมๆมาเพิ่มเพราะฉันเริ่มทำห้องสมุดในแอลเอ

6:30 PM ช่วงค่ำของฉันจะเริ่มก็ต่อเมื่อฉันได้แช่น้ำร้อนนานๆ ฉันจุดเทียนหอม เปิดทีวีดูข่าวและพยายามดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง เป็นช่วงเวลาที่ฉันได้พักหายใจจากช่วงกลางวันจนถึงกลางคืน เป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากสำหรับฉัน 

7:30 PM ฉันออกไปทานมื้อค่ำ 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ฉันจะเข้มงวดมากว่าต้องไม่เกินทุ่มครึ่ง ฉันไป Morimoto, Bar Masa, Waverly Inn, Beatrice Inn และ La Esquina แถบชานเมืองฉันจะไป Crown ไม่ก็ Mark Hotel ส่วนที่ที่ฉันชอบไปสิงแห่งใหม่คือห้องชาที่โรงแรม Carlyle ฉันชอบสั่งเมนูอย่างแซลมอนรมควันหรือทาร์ทาร์ สเต็ค คืนวันอาทิตย์ฉันชวนเพื่อนๆมาทานข้าวที่บ้าน ฉันไม่เคยชอบคืนวันอาทิตย์เลยตั้งแต่สมัยเรียน ฉันเลยชวนเพื่อนๆมาสนุกกัน เมนูที่ทานมักจะเป็นอาหารจีนแบบโฮมคุกโดยแม่บ้านของฉัน และนี่คืออาหารจีนที่ดีที่สุดในนิวยอร์ค คนที่มาจะเป็นกลุ่มบ้าๆบอๆหลายๆแบบ พวกเขามากินแล้วก็ไป พวกเขามักบอกวาา "ฉันไม่อยากกลับเลย" แต่ฉันบอกว่า "ไปได้แล้ว" ฉันหมายถึงพวกเขาผ่อนคลายกันมาก ฉันรู้ว่านั้นทำให้คนฟังรู้สึกไม่ดี มันทำให้ฉันมีชื่อว่าเป็นเจ้าภาพที่ไล่แขก 

9:30 PM เมื่อฉันกลับถึงบ้านเป็นเวลาที่ฉันทำงานจริงๆ ออฟฟิศอีกแห่งของฉันคือเตียงนอน ฉันจะนอนสเก็ตรูป นั่นคือกระบวนการทำงานของฉัน ฉันจะดีไซน์ไม่ออกถ้าไม่เห็นภาพชัดเจนในหัวก่อน

1:00 AM ฉันมักเข้านอนเวลาตี 1 หรือ ตี 2 วันที่ดีของฉันคือวันที่ฉันได้ใช้ชีวิตเต็มที่ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ฉันจะงงๆเล็กน้อย ฉันจะนอนดึกกว่าปกติ ฉันจะไปช็อปปิ้ง ทานมื้อค่ำและดูหนัง ฉันจะนั่งเล่นในห้องครัว คุณจะไม่คิดว่านั่นคือห้องครัวของแฟชั่นดีไซเนอร์ มีทีวีสองเครื่อง มีตู้แช่ไอศกรีม ตู้เย็นสำหรับแช่โซดาและตู้เย็นสำหรับอาหารสุขภาพ มีพวกเหล้าซึ่งมีวอดก้าแช่น้ำแข็งอยู่ด้วย เรามีตู้ลูกอม ตู้ซีเรียล และตู้สำหรับของที่ฉันเรียกว่า "อาหารสีส้ม" อย่างชีโตส เปปเปอร์ริดจ์ ฟาร์ม โกลด์ฟิช และมันฝรั่งทอดทุกชนิด ฉันคลั่งไคล้มันฝรั่งทอดมาก ฉันจะแอบหาวิธีใส่มันฝรั่งทอดลงไปในค็อกเทลด้วย ใช่แล้ว ยอดเยี่ยมไปเลย อาหารสีส้ม


 ---------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณเนื้อหาดีๆจากนิตยสาร Harper's Bazaar

No comments:

Post a Comment